ปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยสักนั้นเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของคนๆ นั้นได้ชัดเจนที่สุดโดยเฉพาะรอยสักไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่ใครจะรู้ว่าต้นกำเนิดของรอยสักไทยนั้นถือกำเนิดขึ้นมาเพื่ออะไร เราจะพาย้อนเวลากลับไปสู่รากเหง้าของรอยสักไทยที่มีความน่าสนใจไม่แพ้รอยสักประเภทอื่น
การสักในประเทศไทยนั้นไม่ปรากฏชัดว่าเริ่มต้นเมื่อไหร่แต่รอยสักช่วงแรกจะเป็นการลงยันต์โดยหวังผลเพื่อความแข็งแกร่ง คงกะพันเช่นยันต์ที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง ยันต์ห้าแถว ยันต์เก้ายอด ยันต์แปดทิศ เป็นต้น โดยการสันนิษฐานจากนักวิชาการคาดว่าได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งเขมรซึ่งนิยมสักยันต์ลงคาถาภาษาขอมลงบนอวัยวะอย่าง แขน ขา หน้าอก แม้กระทั่งศีรษะก็ตาม
ซึ่งในระยะแรกเริ่มของการสักนั้นแพร่หลายในกลุ่มนักรบไทยโบราณซึ่งมุ่งหวังในเรื่องคงะพันมีการลงอาคมลงบนรอยสักจากอาจารย์ขมังเวทย์เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการออกรบกับข้าศึก รอยสักที่นิยมคือ หนุมานคลุกผุ่น เสือเผ่น ยันต์เก้ายอด ยันต์มหาอุต เป็นต้น ส่วนรอยสักอีกสายที่แยกออกมาชัดเจนคือ เมตตามหานิยม เพื่อเป็นที่รักใคร่ของคนรอบตัว ไม่ว่าเป็นเรื่องการเจรจา เรียกทรัพย์ ทำมาค้าขึ้น เป็นต้น รอยสักที่นิยมคือ ยันต์โภคทรัพย์ ยันต์จิ้งจก
ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากลวดลายรอยสักที่ถูกต้องตามหลักการแล้วต้องมาจากอาจารย์ที่มีวิชาคาถาอาคมชั้นสูงซึ่งเป็นเคล็ดลับเฉพาะตัวในแต่ละท่านซึ่งจะถูกสืบทอดไปยังลูกศิษย์ที่ไว้ใจสืบต่อไป
สิ่งที่ยากกว่าการประทับรอยสักลงบนร่างกายนั้นคือการคงความขลังของรอยสักให้ยาวนาน หลายคนของเสื่อมจากการพฤติตัวไม่เหมาะสมอย่างเช่น ลักทรัพย์ เป็นมิจฉาชีพ ทำตัวกร่าง โอ้อวดทะเลาะวิวาท ซึ่งล้วนแต่ทำให้รอยสักขาดความขลังและมนต์เสื่อมลงได้
อัพเดทความเคลื่อนไหวของ The Master ได้ที่
VDO : https://seeme.me/ch/themaster/